มาตราฐานในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า นั้นมีอยู่หลากหลายมาตราฐาน แต่พอจะแบ่งออกได้เป็น 2 อย่างคือ
1) มาตราฐานอุปกรณ์ไฟฟ้า
2) มาตราฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า
ซึ่งแต่ละมาตราฐานยังแบ่งออกได้อีก 3 อย่าง คือ
– มาตราฐานสากล
– มาตราฐานประจำชาติ
– มาตราฐานของแต่ละหน่วยงาน
1). มาตราฐานสากล เช่น ISO, IEC
– ISO (International Organization for Standardization) : เป็นมาตราฐานทั่วไปทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (ยกเว้นทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์) เช่น ISO9000, 9001, 9002 (เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์สินค้า), ISO14000 (เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม)
– IEC (International Electrotechnical Commission) : เป็นองค์กรระหว่างประทเศที่ร่างมาตราฐานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และ โดยขณะนี้ IEC มีประเทศสมาชิกเกือบทุกประเทศในโลกแล้ว ซึ่งรวมถึงไทยด้วย
ข้อดีของการมีมาตรฐานร่วมกันคือ จะทำให้การออกแบบ การผลิต การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในทางการค้า และขจัดการกีดกันทางการค้าที่มาในรูปแบบของข้อกำหนดมาตรฐานต่างๆ สำหรับประเทศไทย หน่วยงาน สมอ (TISI ) เข้าร่วมเป็นสมาชิกประเภท Full member กับ IEC เมื่อปี พ.ศ 2534
2). มาตราฐานประจำชาติ
– ประเทศอุตสหกรรมที่สำคัฯในโลก ต่างมีมาตราฐานของตนเองมานานแล้ว โดยมาตราฐานประจำชาติของแต่ละประเทศต่างร่างขึ้นใช้ภายในประเทศของตนเอง เพื่อให้ตรงวิธีปฎิบัติของตนเอง นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆ ด้วย
มาตราฐานประจำชาติที่สำคัญ ได้แก่
– ANSI (American National Standard Institute) ของประเทศสหรัฐอเมริกา
– NEC (National Electrical Code) ของประเทศสหรัฐอเมริกา
– BS (British Standard) ของประเทศอักกฤษ
– DIN (German Industrial Standard) ของประเทศเยอรมันนี
– VDE (Verband Deutscher Elektrotechniker) ของประเทศเยอรมันนี
– JIS (Japan Industrial Standard) ของประเทศญี่ปุ่น
– TIS หรือ มอก. (มาตราฐานผลิตภัณฑ์อุตสหกรรม) ของประเทศไทย
– EIT หรือ วสท. (มาตราฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า) ของประเทศไทย
3). มาตราฐานของแต่ละหน่วยงาน
– ซึ่งก็เป็นการนำเอามาตราฐานสากลหรือมาตราฐานประจำชาติต่างๆ เอามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละหน่วยงานนั้นๆ
ปัจจุบันนี้มาตราฐานประจำชาติต่าง ๆ ได้ลดความสำคัญลง โดยเฉพาะอุตสหรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากมาตราฐานประจำชาตินั้นถือเป็นกำแพงการค้าอย่างหนึ่ง หลาย ๆ ประเทศจึงได้พยายามปรับปรุงมาตราฐานประจำชาติของตนเองใหม่ให้ตรงตามมาตรฐานสากล และหลายประเทศได้ยกเลิกมาตราฐานของตนเองโดยนำมาตราฐานสากลทั้งฉบับมาใช้เป้นมาตราฐานประจำชาติของตน
สำหรับประทเศไทยในอดีตการทำมาตราฐานทางไฟฟ้าส่วนมากจะแปลเรียบเรียงมาจากมาตราฐาน IEC ซึ่งการแปลนั้นต้องใช้เวลามากและความหมายอาจจะไม่ตรงกับความหมายเดิม แต่ในขณะนี้มาตราฐานสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นไม่มีการแปลและเรีบเรียงอีกต่อไป แต่จะนำมาตราฐาน IEC ทั้งฉบับซึ่งเขียนเป็นภาษาอักกฤษมาเป็นมาตราฐานไทยเลยตามแนวปฎิบัติซึ่งหลาย ๆ ประเทศในโลกกำลังทำอยู่
1). มาตราฐานของอุปกรณ์ไฟฟ้า
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในระบบไฟฟ้ามีอยู่มากมายหลายชนิดส่วนมากจะมีมาตราฐานควบคุมคุณภาพอยู่แล้ว โดยมาตราฐานอุปกรณ์ไฟฟ้าที่นิยมใช้กันมาก คือ IEC จะสังเกตได้จากแคตตาลอกของอุปกรณ์ไฟฟ้าจะอ้างอิงถึงมาตราฐานนี้อยุ่เสมอ เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ไฟฟ้าแรงสูง จะอ้างอิงมาตราฐาน IEC- 60694 “ Common specifications for high-voltage switchgear and Controlgear standards Applies ” เป็นต้น
ดังนั้นในการออกแบบระบบรวมถึงข้อกำหนดของอุปกรณ์ไฟฟั้นั้น ในประเทศไทย รายละเอียดที่กำหนดในแบบโดยมากจะอ้างอิงมาจาก มอก. และมาตราฐาน IEC เป็นหลัก หรือบางครั้งก็ใช้มาตราฐานอื่นประกอบหากอปุกรณ์ดังกล่าวไม่มีอยู่ในมาตราฐานไทยหรือมาตราฐาน IEC
2.1). มาตราฐานต่างประเทศในการการออกแบบและติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า
มาตราฐานต่างประเทศที่นิยมใช้กันมากในประเทศไทย คือ NEC (National Electrical Code) ซึ่งเป็นมาตราฐานการออกแบบและติดตั้งระบบ และอุปกรณ์ไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมีครั้งแรกตั้งแต่ปี 1897 และมีการแก้ไขปรับปรุงทุกๆ 3 ปี จึงนับได้ว่าเป็นมาตราฐานการออกแบบและติดตั้งที่สมบูรณ์มาก มาตราฐาน NEC ได้เข้ามาในประเทศไทยอย่างมากในช่วงที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีฐานทัพในประเทศไทย วิศวกรไฟฟ้าของไทยส่วนมากจึงนิยมใช้ NEC เป็นพื้นฐานในการออกแบบ และติดตั้งระบบไฟฟ้า
เนื่องจากหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปมีมาตราฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าเป้นของตนเอง ซึ่งจะมีความแตกต่างในรายละเอียดต่างๆเป็นอย่างมาก ดังนั้น IEC จึงได้ทำมาตราฐานเกี่ยวกับการติดตั้งระบบ อุปกรณ์ไฟฟ้า ขึ้นในปี 1972 คือ IEC-60364 “ Electrical Installation of Buildings ” ซึ่งมีอยู่หลายฉบับ
ในมาตราฐานนี้ IEC 60364 นี้ คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคผู้ร่างได้ใช้มาตราฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าของหลายประทศเป็นตัวอย่างรวมทั้ง NEC ด้วยเพื่อให้มาตราฐานที่ได้เป็นสากล และสามารถปฎิบัติได้
2.3). มาตราฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย
การติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยนั้น ในอดีตการไฟฟ้า นครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ต่างมรมาตราฐานของตนเอง ข้อกำหนดส่วนมากจะเหมือนกัน แต่ก็มีบางส่วนที่ต่างกันทำให้ผู้ออกแบบระบบไฟฟ้าและผู้ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าเกิดสับสน ด้วยเหตุนี้สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) หรือ The Engineering Institute of Thailand (EIT) ด้วยความร่วมมือจากการไฟฟ้าทั้งสองแห่งดังกล่าวได้จัดทำ “ มาตราฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย ” ขึ้นเพื่อให้มั่งประเทศมีมาตราฐานเรื่องการติดตั้งไฟฟ้าฉบับเดียวกัน
– มาตราฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยฉบับใหม่นี้ เนื้อหาส่วนมากจะแปลและเรียบเรียงมาจาก NEC และก็มีความพยายามที่จะนำมาตราฐานของ IEC มาใช้ด้วย โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
– มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย พ.ศ. 2556 ถือเป็นฉบับล่าสุดในขณะนี้ โดยเนื้อหาส่วนมากแปลและเรียบเรียงจาก NEC และก็มีความพยายามที่จะนำมาตรฐานของ IEC มาใช้ด้วย โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไฟฟ้า สีของสายไฟ และการคำนวณหาพิกัดกระแสของสายไฟฟ้า เป็นต้น
กลุ่มผลิตภัณฑ์
เรามีสินค้าหลากหลายรวมถึงสินค้าเฉพาะด้านสำหรับ อุตสาหกรรม เชิงพาณิชย์หรือสำหรับโครงการที่พักอาศัย อาทิ เช่น ;
อุปกรณ์รวมสาย, ชุดรวมสายหลายทาง, อุปกรณ์จัดรวมสาย
Bangkok Head Office
32, K.M Building, 3rd Floor, Prasert-Manukitch Road,Chorakhe Bua, Lat Phrao, Bangkok 10230
Rayong Branch Office
365 Golden Land 99/36-37 Map Kha,
Nikhom Phattana District, Rayong 21180
Contact
Email : weat@wea-asia.com
Tel. : +662-907-4698 – 9
Mobile : +669-9219-6509